ลิเวอร์พูล 0-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล รอดพ้นจากการแพ้นัดแรกในพรีเมียร์ลีกอย่างไม่น่าเชื่อหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้จุดโทษ ช่วง 5 นาทีสุดท้ายแต่ริยาร์ด มาห์เรซ ยิงข้ามคานช็อกโลก ลงท้ายเสมอโนสกอร์ ทำให้ตอนนี้ทั้ง’เรือใบ’ ,สิงห์บลู และ หงส์แดง มี 20 แต้ม เรียงหน้า 1,2 และ 3 โดยเจ้าถิ่นเริ่มแผ่วไม่ชนะทุกรายการมาแล้ว 4 นัดติดแล้ว ตามรายงานจาก ทีเด็ดsbobet
ลิเวอร์พูลแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2003 โดยหลังจากนั้นเป็นการชนะ 12 และเสมอ 5 นัดแต่ฟอร์มพวกเขาแกว่งไป 3 เกมหลังไม่ชนะใครทว่าก็มีข่าวดีเมื่อ นาบี เกอิต้า เรียกความฟิตกลับมาเป็นสำรอง โดยตำแหน่งกองหลังมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยถอนเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ที่ฟอร์มหลุดไปแล้วเอาโจ โกเมซโยกมาแทนทำให้เดยัน ลอฟเรนได้เสียบเซ็นเตอร์แทนขณะที่แดนหน้ายังเหมือนเดิม นอกจากนั้นพวกเขากำลังทำสถิติไม่เสียประตูในบ้าน 9 เกมติดต่อกันยาวนานเป็นอันดับ 2 ต่อจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อปี 1994 ที่ทำไว้ 12 นัด
ด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังไม่มีเควิน เดอ บรอยน์ที่กลับมาซ้อมแล้วแต่ไม่ฟิตพอทำให้แบร์นาร์โด้ ซิลวาได้เสียบตำแหน่งนี้โดยริยาด มาห์เรซได้ออกสตาร์ตก่อนเลรอย ซาเน่โดยมีเซร์คิโอ อเกวโร่และราฮีม สเตอร์ลิ่งในแนวรุก
จังหวะสำคัญของเกม
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูลส่ง 3 ประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ ลงครบครัน แต่แนวรับปรับให้ โจ โกเมซ ยืนแบ็กขวาพร้อมส่ง เดยัน ลอฟเรน ประจำตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ วาง เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” เป็นหน้าเป้าเช่นเคย ตามการรายงานของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2018 เดิมพัน
เริ่มเกมมาทั้งสองทีมไม่ผลีผลามบุกเข้าใส่กัน โดยเป็นหงส์แดงได้ลุ้นก่อน โจ โกเมซ โถมโหม่งชงไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เกี่ยวบอลลงเข้าซ้ายแล้วยิง ทว่าหลุดเสานิดเดียว
รูปเกมเป็นไปแบบเนือยๆ แทบหาจังหวะลุ้นประตูยาก นาที 29 ลิเวอ์พูล ต้องเปลี่ยนตัวเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ บาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง นาบี เกิต้า ลงแทน
นาที 38 เรือใบสีฟ้าได้เสียวเล็กน้อย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไหลให้ ดาบิด ซิลบา พลิกหาช่องยิงติดบล็อก จบครึ่งแรกเสมอกันจืดชืด 0-0
ครึ่งหลัง นาที 61 ริบาด มาห์เรซ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนกดด้วยขวาข้างไม่ถนัด แม้บอลจะเข้ากรอบ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับ อาลีสซง เบ็คเกอร์
หงส์แดงโต้บ้าง ซาลาห์ ได้บอลในกรอบเขตโทษฝั่งขวาก่อนลองซัดด้วยซ้าย แต่บอลก็ไม่แรงมากและเข้าซอง เอแดร์ซอน สบาย
เป๊ป ต้องแก้เกมถอน กุน อเกวโร่ ที่เท้าบอดในแอนฟิลด์เป็นนัดที่ 10 ติดต่อกัน ออกแล้วส่ง กาเบรียล เชซุส ลงเล่นในนาที 66
อีก 3 นาทีถัดมา หงส์แดง ได้ลุ้นจากการเล่นเร็ว อาลีสซง เบ็คเกอร์ เปิดบอลให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ตักยาวมาให้ ซาลาห์ แตะบอลเข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้าย ทว่าหลุดเป้าหมายออกหลังไปไกล จากนั้น ลิเวอร์พูล ถอด ฟีร์มีโน่ ออกแล้วส่ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ลงเล่นแทน
แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสจะแจ้งในนาที 75 สเตอร์ลิ่ง ไหลบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย แบร์นาร์โด้ ซิลวา สปีดตามเข้าไปแล้วตวัดเลยไปเสาไกล มาห์เรซ จับแล้วแต่งยิงด้วยซ้ายกะเล่นเสาแรกแต่ อาลีสซง ปัดออกหลังได้เยี่ยม
ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมแทบไม่เร่งจังหวะเข้าใส่กัน แต่แล้วนาที 85 แมนฯ ซิตี้ มาได้จุดโทษในจังหวะที่ ฟาน ไดค์ เสียบฟาวล์ ลีรอย ซาเน่ ผู้ตัดสินเป่าทันที ริยาด มาห์เรซ รับหน้าที่ยิง แต่ซัดบอลข้ามคานโด่งออกหลังไปไกล
จบเกม ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0 ทำให้ 3 ทีมนำมี 20 คะแนนเท่ากันทั้งแมนฯ ซิตี้, เชลซี และ ลิเวอร์พูล โดยเรือใบสีฟ้านำฝูงด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า
สถิติสำคัญ
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยอมรับมีโชคเล็กน้อยที่รอดพ้นการเสียประตูจากจุดโทษก่อนเสมอแมนฯ ซิตี้ 0-0 ชี้เป็นผลการแข่งขันที่ดีแล้วเพราะลูกทีมตัวเองก็ทำได้ดี
เกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกเกือบต้องแบ่งแต้มกันไปแบบเนือยๆ เมื่อทั้งสองทีมหาโอกาสไม่ได้มากนัก แต่ท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ทำฟาวล์ ลีรอย ซาเน่ ทว่า ริยาด มาห์เรซ กลับซัดจุดโทษข้ามคาน ทำให้ทั้งสองทีมต้องแบ่งแต้มกันไปด้วยผลเสมอ 0-0
คล็อปป์ กล่าวว่า “ผมพอใจนะ มันเป็นเกมที่ตึงเครียด การเจอกับแมนฯ ซิตี้เป็นความท้าทายอย่างยิ่งเสมอ ผมแฮปปี้กับสิ่งที่ลูกทีมแสดงออกในวันนี้”
“การเริ่มต้นเกมยอดเยี่ยมและผมก็ชอบด้วย แต่หากคุณต้องการชนะซิตี้ คุณก็ต้องใช้โอกาสอันน้อยนิดที่มีให้ได้ และคุณก็ไม่สามารถป้องกันพวกเขาได้ 100 เปอร์เซ็นต์ตลอด 95 นาที นอกจากจุดโทษแล้วก็มีอีกครั้งสองครังที่เราต้องการเซฟดีๆ จาก อาลีสซง”
“มันเป็นเกมที่สูสีกันมากเพราะทั้งสองทีมต่างรับรู้คุณภาพของอีกทีมว่าห้ามเสียการครองบอล ไม่งั้นเจอปัญหาใหญ่แน่ ทั้งสองทีมต่างทำได้ดี และเราก็โชคดีเล็กน้อยในจังหวะจุดโทษ แต่ดูจากฟอร์มการเล่นทั้งหมด ก็เป็นผลการแข่งขันที่ดีแล้ว”
สรุปผลงาน
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยอมรับมีโชคเล็กน้อยที่รอดพ้นการเสียประตูจากจุดโทษก่อนเสมอแมนฯ ซิตี้ 0-0 ชี้เป็นผลการแข่งขันที่ดีแล้วเพราะลูกทีมตัวเองก็ทำได้ดี
เกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกเกือบต้องแบ่งแต้มกันไปแบบเนือยๆ เมื่อทั้งสองทีมหาโอกาสไม่ได้มากนัก แต่ท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ทำฟาวล์ ลีรอย ซาเน่ ทว่า ริยาด มาห์เรซ กลับซัดจุดโทษข้ามคาน ทำให้ทั้งสองทีมต้องแบ่งแต้มกันไปด้วยผลเสมอ 0-0
คล็อปป์ กล่าวว่า “ผมพอใจนะ มันเป็นเกมที่ตึงเครียด การเจอกับแมนฯ ซิตี้เป็นความท้าทายอย่างยิ่งเสมอ ผมแฮปปี้กับสิ่งที่ลูกทีมแสดงออกในวันนี้”
“การเริ่มต้นเกมยอดเยี่ยมและผมก็ชอบด้วย แต่หากคุณต้องการชนะซิตี้ คุณก็ต้องใช้โอกาสอันน้อยนิดที่มีให้ได้ และคุณก็ไม่สามารถป้องกันพวกเขาได้ 100 เปอร์เซ็นต์ตลอด 95 นาที นอกจากจุดโทษแล้วก็มีอีกครั้งสองครังที่เราต้องการเซฟดีๆ จาก อาลีสซง”
“มันเป็นเกมที่สูสีกันมากเพราะทั้งสองทีมต่างรับรู้คุณภาพของอีกทีมว่าห้ามเสียการครองบอล ไม่งั้นเจอปัญหาใหญ่แน่ ทั้งสองทีมต่างทำได้ดี และเราก็โชคดีเล็กน้อยในจังหวะจุดโทษ แต่ดูจากฟอร์มการเล่นทั้งหมด ก็เป็นผลการแข่งขันที่ดีแล้ว” ขอบคุณการรายงานจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2018 ไฮไลท์ฟุตบอล
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
