แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลการแข่งขัน ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2018/19 ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ คู่ระหว่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเหย้า เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็นทางด้านของเจ้าบ้านทำได้ดีกว่าเอาชนะไปได้ 3-1 รายงานจาก sbobet อัตราต่อรอง
กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เลือกปรับเปลี่ยนนักเตะจากเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ถล่ม ชัคตาร์ โดเนตส์ค 6-0 เพียงแค่ 2 รายเท่านั้น คือ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ กับ เซร์คิโอ อเกวโร ซึ่งได้โอกาสลงตัวจริงแทน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ กาเบรียล เชซุส
ทางฝั่งผู้มาเยือน ทีมของ โชเซ มูรินโญ ปรับทีมจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่บุก ไปเอาชนะ ยูเวนตุส 2-1 เพียง 2 คนเช่นกัน ได้แก่ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ มารูยาน เฟลไลนี ซึ่งได้ลงเป็น 11 คนแรกแทน อเล็กซิส ซานเชซ และ พอล ป็อกบา ที่มีรายงานเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บ ข้อมูลจาก English Premier league 2018 อัตราต่อรองเดิมพัน2018
จังหวะสำคัญของเกม
เริ่มเกมเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้น เป็นฝั่งของเจ้าถิ่นที่ได้เฮก่อนจากประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง เปิดบอลทางซ้ายลึกไปถึงเสาไกลให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ตวัดเข้ากลางต่อให้ ดาบิด ซิลบา แต่งเข้าขวาแล้วยิงไปแฉลบแนวรับ ปีศาจแดง บอลตุงตาข่าย ส่งให้ เรือใบสีฟ้า ออกนำ 1-0
รูปเกมในครึ่งเวลาแรก เจ้าบ้าน ยังคงครองเกมบุกได้เหนือกว่า แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะบวกลูกที่สองเพิ่มได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเป็น เรือใบสีฟ้า ที่นำอยู่ 1-0
เกมในครึ่งเวลาหลังเพียงแค่นาทีที่ 48 เจ้าบ้าน ก็มาบวกลูกสองเพิ่มได้สำเร็จ จากจังหวะที่ กุน อเกวโร ทำชิ่งกับ มาห์เรซ ก่อนที่ อเกวโร่ จะได้หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาเต็มแรงบอลแสกหน้า ดาบิด เด เคอา เข้าไปอย่างเหนือชั้น ช่วยให้ เรือใบสีฟ้า หนีห่างเป็น 2-0
ทีมเยือน ยูไนเต็ด ตามหลังถึงสองประตู มูรินโญ่ จึงไม่มีทางเลือกต้องแก้เกมด้วยการส่ง โรเมลู ลูกากู ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บลงมาเป็นตัวสำรองแทน เจสซี ลินการ์ด ในนาทีที่ 57 ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อมาได้จุดโทษในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่ ลูกากู ไปโดน เอแดร์สัน พุ่งตัวมาขวางจนล้มลงไป และจะเป็น อ็องโตนี มาร์กซิยาล รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ทีมเยือนตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2
ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 86 ตัวสำรองของ เรือใบสีฟ้า มาทำแสบยิงประตูที่สามหนีห่างไปอีก โดยเป็น อิลคาย กุนโดกัน ซึ่งลงมาแทน อเกวโร ตั้งแต่นาทีที่ 75 รับบอลในเขตโทษจากการเปิดทางกราบขวามาจาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา ก่อนจะจัดการซัดด้วยซ้ายจ่อ ๆไม่เหลือ ส่งให้แชมป์เก่านำห่าง 3-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 32 แต้ม แซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับ 8 มี 20 คะแนนเท่าเดิม
สถิติสำคัญ
เจ้าบ้านทำผลงานได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยมีโอกาสยิงประตูมากถึง 17 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ส่วนทางฝั่งทีมเยือนมีโอกาสยิงประตูเพียง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 1 ครั้ง เช่นเดียวกับ เปอร์เซ็นต์การครองบอลที่เจ้าบ้านทำได้ดีกว่า โดยมีเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 65 เปอร์เซ็นต์ แมนฯยูไนเต็ด 35 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2018 ข่าวฟุตบอล
สรุปผลงาน
โดยหลังจบเกม มูรินโญ่ ก็ยอมรับว่าทีมของเขานั้นพลาดกันเอง “ผมคิดว่ามันไม่ใช่ฟอร์มที่แย่หรอกนะ มันเป็นการก่อความผิดพลาด และเราต้องจ่ายค่าตอบแทนนั้น สามประตูล้วนเป็นความผิดพลาดของเราทั้งหมด กับทีมอย่าง ซิตี้ หากคุณเล่นพลาด คุณก็จะโดนลงโทษอย่างที่เห็น”
“เราเล่นเกมเยือนสองนัดกับ ยูเวนตุส และ ซิตี้ มันไม่ได้หนักหนาในแง่ของสภาพร่างกาย แต่มันมีความกดดัน ผมคิดว่านักเตะบางคนรู้สึกเล็กน้อย”
“เราเสียประตูแรกอย่างเลวร้าย และประตูที่สองเลวร้ายกว่า ประตูที่สามฆ่าทุกอย่าง เราไม่ควรเสียบอล มันไม่เกี่ยวกับดาบิด เด เคอาเลย มันเป็นการเสียบอลของเรา”
สำหรับโปแกรมถัดไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน คริสตัล พาเลซ ในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 เวลา 22.00 ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมออกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในและเวลาเดียวกัน
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
ติดตามเราจากโซเชียล Facebook Twitter Instagram และ YouTube
